ความนำสำนักพิมพ์
หนังสือเรื่อง ‘โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง’ ทั้งภาคภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และภาษาอื่น ๆ อีกหลายภาษา ฮือฮากันมากนับตั้งแต่ พ.ศ. 2524 เป็นต้นมา เฉพาะภาษาญี่ปุ่นจำหน่ายได้มากถึง 4 ล้าน 5 แสนเล่ม ภายในเวลาเพียงหนึ่งปี ส่วนภาษาอื่นก็เป็นหนังสือขายดี รวมทั้งฉบับแปลภาษาไทย
‘คุโรยานางิ เท็ตสึโกะ’ เขียนเรื่อง ‘โทรทัศน์ของโต๊ะโตะ’ หรือ ‘นางสาวโต๊ะโตะ’ ใน พ.ศ. 2525 พิมพ์เล่ม พ.ศ. 2527 และได้รับความนิยมจากผู้อ่านเช่นเดียวกัน
เรื่องนี้คือตอนต่อของ ‘โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง’ นั่นเอง เหตุการณ์เป็นช่วงที่เธออพยพลี้ภัยสงครามจากกรุงโตเกียวไปอยู่ชนบท จนเมื่อเรียนจบจากวิทยาลัยดนตรี สมัครเข้าฝึกอบรมในสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค ยุคที่ญี่ปุ่นเพิ่งเริ่มมีโทรทัศน์เป็นครั้งแรก
โดยอาชีพ คุโรยานางิ เท็ตสึโกะ ไม่ใช่นักเขียน เธอเริ่มเขียนหนังสือเพราะแรงยุของคนอื่นแท้ ๆ แต่หลังจากเริ่มเขียนก็ปรากฏว่า ผลงานของเธอแสดงตัวออกมาให้ใครต่อใครเห็นความสามารถด้านการเขียน ที่จัดอยู่ในระดับยอดเยี่ยมคนหนึ่ง และการที่มีผู้อ่านชื่นชอบเรื่องของเธอมหาศาลทั่วโลก อาจเป็นเหตุให้โต๊ะโตะเขียนเรื่อง ‘นางสาวโต๊ะโตะ’ ต่อจาก ‘โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง’ และก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน ผลงานเล่มนี้จึงเสมือนสิ่งยืนยันความสามารถด้านการเขียนของเธอ นอกเหนือจากความสามารถทางการแสดง ซึ่งเธอทำรายได้สูงสุดติดต่อกันนานหลายปีในประเทศญี่ปุ่น
ด้วยผลงาน 2 เล่มนี้เอง เป็นเหตุให้เธอได้รับแต่งตั้งเป็นทูตสันถาวไมตรีของยูนิเซฟแห่งสหประชาชาติ นับเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติอย่างยิ่ง
นางสาวโต๊ะโตะ’ มิใช่หนังสือบันเทิงอ่านเล่นเพลิน ๆ ไม่เหมือนหนังสืออัตชีวประวัติที่กล่าวถึงความดีของผู้เขียนเพียงด้านเดียว แต่บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย เท่าที่ผู้เขียนได้ประสบตลอดเวลานับแต่เริ่มเข้าสู่วงการวิทยุโทรทัศน์ เข้าสู่สังคมผู้ใหญ่ในขณะที่ความคิดของเธอยังเป็นเด็ก หนังสือเรื่องนี้จึงชี้แนวทางการดำเนินชีวิตของคนรุ่นหนุ่มสาวได้เป็นอย่างดีเพราะทุกสิ่งทีเธอได้เผชิญ ได้ผ่านพ้น ได้ต่อสู้ เอาชนะและพ่ายแพ้มานั้น ล้วนเป็นสิ่งประสบเอง ทั้งแนวทางทำงาน การอยู่ร่วมกับเพื่อนมนุษย์ และที่สำคัญ เป็นหนังสือชี้หนทางการดำเนินชีวิต อย่างมีความสุข มีความหมาย และมีศักดิ์ศรีด้วยวิธีง่าย ๆ
สำนักพิมพ์ผีเสื้อ
มิถุนายน พ.ศ. 2540, มกราคม พ.ศ. 2564
บันทึกผู้แปล
เมื่อได้อ่านเรื่อง ‘โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง’ หลายคนถามว่า ‘หลังจากนั้นแล้ว โต๊ะโตะจังเป็นอย่างไร เธอโตขึ้นเป็นอะไร เป็นอย่างที่เคยหวังไว้มากมายหรือเปล่า’
โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง’ พิมพ์เล่มภาษาญี่ปุ่นครั้งแรกในเดือนเมษายน พ.ศ. 2524 และในเดือนกรกฎาคมปีต่อมา นิตยสาร ‘โชเซ็ตสึชินโจ’ ก็ตีพิมพ์ ‘นางสาวโต๊ะโตะ’ บทแรก ต่อเนื่องจนจบบทสุดท้ายในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2527 ครั้นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2527 ‘นางสาวโต๊ะโตะ’ ก็พิมพ์เป็นเล่มภาษาญี่ปุ่นครั้งแรก
เรื่อง ‘นางสาวโต๊ะโตะ’ (หรือ ‘โทรทัศน์ของโต๊ะโตะจัง’) เปรียบเสมือนบทละครโทรทัศน์หลายบท แต่ละบทแต่ละตอนล้วนแสดงให้เห็นความเป็นไปของชีวิตที่แตกต่างกัน เรื่องราวต่าง ๆ อาจคั่นสลับด้วยความคิดย้อนกลับไปสู่อดีต แสดงออกถึงความรู้สึกนึกคิด การเปรียบเทียบสภาพสังคม ผู้คน วัฒนธรรม และปรัชญาการดำเนินชีวิตที่ซ่อนลึกอยู่ในบทบาทของตัวละครแต่ละคน ได้ถ่ายทอดผ่านสายตาช่างสังเกต และด้วยความคิดที่ละเอียดอ่อนไม่เหมือนใครของเด็กสาวซุกซนคนหนึ่ง
นางสาวโต๊ะโตะ’ ต่างจาก ‘เด็กหญิงข้างหน้าต่าง’ ในข้อที่ว่า เป็นช่วงที่โต๊ะโตะจังเริ่มโตเป็นสาว เธอได้พบได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆ ได้เผชิญกับสังคมผู้ใหญ่ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากวัยเด็กของเธอ ดูเหมือนเธอจะเขียนให้คนรุ่นหนุ่มสาวอ่านเพื่อเตรียมตัวเตรียมใจปรับตัวให้เข้ากับสังคม ความคิด และการพลาดพลั้งต่าง ๆ ของโต๊ะโตะในหนังสือนี้ ถ้าจะมองให้ลึกซึ้งนั่นคือการให้กำลังใจแก่ผู้ที่ทำผิดพลาดในชีวิต ทั้งเรื่องเล็กและเรื่องใหญ่ เพราะชีวิตของเธอก้าวขึ้นสู่บันไดขั้นสูงสุดของอาชีพการแสดง และในสังคมชาวโลก ได้ผ่านความผิดพลาดต่าง ๆ ด้วยความอดทนอย่างยิ่งมามากมาย
หลังจากหนังสือเรื่องสำคัญทั้งสองเรื่องของโต๊ะโตะ พิมพ์เป็นภาษาไทยแล้ว เธอได้มีโอกาสมาเยือนเมืองไทยหลายครั้ง ทั้งในฐานะทูตพิเศษขององค์กรยูนิเซฟแห่งสหประชาชาติและมาท่องเที่ยวส่วนตัว การที่หนังสือของเธอมีผู้อ่านชาวไทยนิยมชมชอบกันมากนั้น ทำให้ ‘โต๊ะโตะ’ รู้สึกเป็นกันเองกับผู้คนในประเทศนี้มากขึ้น
บันทึกของผู้แปลที่ผู้อ่านสำหรับหนังสือเล่มนี้ก็คือ —นี่คือคำตอบของคำถามที่ว่า ‘เมื่อโต๊ะโตะจังเป็นสาว เธอมีสายตามองสิ่งรอบกาย มองโลก และเพื่อนมนุษย์ เพื่อค้นหาความหมายในชีวิตอย่างไร —’
ผุสดี นาวาวิจิต
เมษายน พ.ศ. 2540